วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ปานศิริ’ยันบึ้มหน้ารามฯไม่เกี่ยวไฟใต้-EODตรวจสอบ

รอง ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ตรวจสอบเหตุระเบิด บริเวณ ซ.รามคำแหง 43/1 คาดปัญหาแผงค้า ปัดโยงไฟใต้ ขณะที่ ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบ – จราจรติดขัดอย่างหนัก


ระเบิดหน้าราม


พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภาย หลังเดินทางเข้าตรวจสอบเหตุระเบิด บริเวณ ซ.รามคำแหง 43/1 ถนนรามคำแหง ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรในพื้นที่ พบว่าเหตุระเบิดดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20:39 น. เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน เป็น หญิง 5 คน ชาย 2 คน ราย ส่วนเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง


เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรือ EOD สามารถเก็บภาชนะบรรจุ , สายไฟ และเศษตะปู ได้จำนวนมาก เบื้องต้น ระเบิดดังกล่าวมีศักยภาพทำลายถึงชีวิตได้


ส่วนประเด็นและสาเหตุในครั้งนี้ ยังต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้น คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นแผงค้าขายในพื้นที่ มั่นใจไม่เชื่อมโยงประเด็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพวันนี้ รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด


อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจสอบ จะประชุมร่วมกับ ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้มอบหมายให้ ฝ่ายสืบสวน ไปสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว


ผบช.น. ประชุมเครียด เหตุบึ้มรามคำแหง 43/1


พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมชุดชุดพนักงานสืบสวน หลังเกิดเหตุระเบิด
บริเวณหน้าร้านทำผม “ออกัส” ปาก ซ.รามคำแหง 43/1 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ส่งผลมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 6 คน นอกจากนี้ ยังส่งผลให้กระจกร้าน ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 3 คูหา กระจกร้านแตกเสียหาย


ส่วนร้านค้าแผงลอย ได้รับความเสียหายจำนวน 4-5 ร้าน โดย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ขณะนี้ได้ส่งฝ่ายสืบสวน เร่งหาสาเหตุ พร้อมทั้งมีการแบ่งหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็น กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 สน.หัวหมาก เร่งตรวจสอบอย่างละเอียด โดยอยากฝากไปถึงประชาชน หากพบเห็นเหตุการณ์ สามารถแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ได้


EOD เข้าตรวจสอบเหตุระเบิด ซ.รามฯ 43/1


ความคืบหน้าเหตุระเบิด บริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 7 ราย เมื่อคืนที่ผ่าน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก ยังคงนำเชือกมากั้นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอก เข้าไปยุ่งเกี่ยวในจุดเกิดเหตุ และรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ สภาพความเสียหายบริเวณจุดเกิดเหตุ ยังคงพบเห็นเศษวัสดุอุปกรณ์ ตกเกลื่อนกระจัดกระจายเต็มพื้นถนนรามคำแหง กินพื้นที่ 2 ช่องจราจร ส่วนกระจกร้านเสริมสวย ออกัส แตก 1 บาน ได้รับความเสียหาย


อย่างไรก็ตาม การจราจรบริเวณถนนรามคำแหง ในฝั่งขาออก จากช่วงแยกวัดเทพลีลา มุ่งหน้า การกีฬาแห่งประเทศไทย ติดขัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปิดการจราจร 2 ช่องทาง บริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 เป็นระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร ขณะที่ประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เดินทางเข้ามาดูสภาพความเสียหาย และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


กองปราบส่งทีมร่วมสอบเหตุระเบิดรามฯ43/1


พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองบังคับการปราม เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมเข้าร่วมตรวจสอบเหตุระเบิด บริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้ว


โดยจะมีการประชุมร่วมกัน ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ในส่วนของกองปราบพร้อมดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งการติดตามความเคลื่อนไหว โดยประสานข้อมูลข่าวสารจากผู้ที่เกี่ยวข้อง การสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมถึงการเฝ้าระวังอื่น ๆ


แต่ขณะนี้ในส่วนของกองปราบ ยังไม่มีเบาะแสที่แน่ชัด ซึ่งต้องไปดูความขัดแย้งหรือประเด็นที่นำมาซึ่งการก่อเหตุก่อน


อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สุพิศาล ยังกล่าวด้วยว่า เบื้องต้นต้องตรวจสอบระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวก่อน เฉพาะ
ส่วนประกอบของระเบิด ประเภทดินระเบิด ตะปูเรือใบที่งอ วัสดุที่ใช้ห่อหุ้ม หรือองค์ประกอบที่บ่งบอกสัญลักษณ์ว่าปรากฏอยู่กลุ่มไหน ซึ่งทราบว่าหน่วย EOD อยู่ระหว่างการตรวจสอบ


ตร.เร่งตรวจสอบCCTVหามือซุกบึ้มรามคำแหง


พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 ว่า ล่าสุดฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คนแล้ว โดยอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าร้านทำผม และหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยรามคำแหง และบริเวณเส้นทางเพิ่มเติมแล้ว โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบวัตถุระเบิดจากหน่วย EOD ก่อน ส่วนเบาะแสอื่น ๆ ยังไม่ขอเปิดเผย


อย่างไรก็ตาม เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี ผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์ มายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล


‘พล.ต.อ.ปานศิริ’ ประชุมคืบหน้าคดีระเบิดรามฯ 43/1


เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณ ปากซอยรามคำแหง 43/1 แล้ว หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เข้ามาตรวจพิสูจน์และเก็บวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไปแล้ว 1 รอบ และในช่วงเช้าวันนี้ได้เข้าตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่กระจายกำลังหาชิ้นส่วนของวัตถุระเบิดที่อาจหลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ขณะที่ยังมีการปิดการจราจรบริเวณถนนรามคำแหง 43/1 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงาน ส่วนธนาคารกรุงเทพ และร้านเสริมสวยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดเมื่อคืน ได้เปิดทำการตามปกติแล้ว


อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มายัง สน.หัวหมาก เพื่อรับทราบความคืบหน้า และแนวทางในการสืบสวนติดตามมือวางระเบิดดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น